วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

ภาวะ การตลาดและการแข่งขัน 

ธุรกิจค้าปลีกในปี 2549 ชะลอตัวลงจากหลากหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบ กำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทั้งราคาน้ำมัน สถานการณ์การเมือง ภาวะน้ำท่วม ไข้หวัดนก รวมถึงความไม่สงบทางภาคใต้ที่ยังไม่คลี่คลาย เป็นผลให้คาดว่าทั้งปี 2549 มูลค่าค้าปลีกในระบบภาษีในภาพรวมจะขยายตัวประมาณร้อยละ 5 คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท ในขณะที่ภาวการณ์แข่งขันสูง โดยเฉพาะในส่วนของค้าปลีกสมัยใหม่ในลักษณะ Chain Store ทั้งในรูปแบบการขยายสาขาและการนำกลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ มาใช้เพื่อดึงดูดผู้บริโภคซึ่งในปัจจุบันจะยิ่งมีการไตร่ตรองในการซื้อและคำนึงถึงความคุ้มค่ามากขึ้น

จากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อรูปแบบพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยส่วนหนึ่งมีการลดความถี่ในการซื้อลงและอาจจะมีการซื้อครั้งเดียว ในปริมาณที่มากขึ้น รวมไปถึงการซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกใกล้บ้านหรือที่ทำงานมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบกับมาตรการควบคุมผังเมือง ทำให้ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เริ่มมีการปรับรูปแบบไปสู่ร้านค้าปลีกขนาดเล็กมากยิ่งขึ้น ร้านสะดวกซื้อจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจเข้ามาลงทุนทั้งจากผู้ประกอบการรายเดิม และผู้ค้าปลีกในตลาดอื่น ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่ประกอบการเองและขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์

ที่มาของข้อมูล
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dnt&month=08-2008&date=24&group=40&gblog=38

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น